เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ยอมรับว่าไม่เห็นด้วยกับผู้ตัดสินที่ไล่ออกเขาในเกมเนชั่นส์ลีกที่ เนเธอร์แลนด์ ทำได้เพียงเสมอกับ ฮังการี 1-1 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
กองหลังของ ลิเวอร์พูล ได้ 2 ใบเหลืองในเวลาห่างกัน 3 นาทีของครึ่งหลัง โดยใบแรกเกิดจากการแสดงความไม่พอใจ และใบที่สองเกิดจากการทำฟาวล์
ใบเหลืองแรกเกิดจากการประท้วงหลังจากที่ ดอนเยลล์ มาเลน โดนทำฟาวล์ขณะที่แนวรุก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ พุ่งเข้าหาประตูในขณะที่ เนเธอร์แลนด์ ตามหลังเจ้าบ้าน 1-0 ทำให้ ฟาน ไดจ์ค รู้สึกหงุดหงิดเป็นพิเศษ
“ใบแดงเป็นเรื่องที่น่าผิดหวัง มันไม่ควรเกิดขึ้น แต่ผมโกรธเป็นพิเศษกับใบเหลืองแรก” ฟาน ไดค์ กล่าวกับ ESPN Netherlands หลังได้ใบแดงแรกในนามทีมชาติ
“พวกเขาบอกว่ากัปตันเป็นคนเดียวที่สามารถพูดคุยกับผู้ตัดสินได้ ผมเดินไปหาเขา ด้วยจังหวะที่เร็วแต่ไม่ใช่แบบหยาบคาย ไม่เลย ผมเคารพเขามาก เพราะผมรู้สึกว่าเป็นผู้เล่นของเราโดนทำฟาวล์ คู่แข่งไม่ได้เข้าไปแย่งบอลเลย ถ้าแม้แต่กัปตันไม่สามารถพูดอะไรได้ … มันก็ยากน่ะสิ”
ขณะเดียวกัน โรนัลด์ คูมัน กุนซือทีมชาติเนเธอร์แลนด์ เองก็รู้สึกงุนงงกับใบเหลืองใบแรกของ ฟาน ไดจ์ค เช่นกัน
“ช่วงเวลานั้นมันน่าหงุดหงิด ผมไม่เข้าใจเลย ผมคิดว่าเราเห็นพ้องกันว่ากัปตันสามารถประท้วงกับผู้ตัดสินได้” คูมัน บอกกับ NOS
“การฟาวล์ (ใส่มาเลน) ถือเป็นใบแดงได้เลย ไม่มีเจตนาจะเล่นบอลเลย การที่ เวอร์จิล ได้ใบเหลืองที่สองนั้นไม่สมควรด้วยซ้ำ เขาเองก็รู้เรื่องนั้น”
Source : https://www.espn.co.uk/football/story/_/id/41742010/virgil-van-dijk-1st-red-card-netherlands-hungary